• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

5 ทางออกนิสัยขี้โมโหให้กลายเป็นคนใจเย็นขึ้น

Started by kaidee20, March 19, 2023, 01:45:08 AM

Previous topic - Next topic

kaidee20


5 วิธีแก้นิสัยคนขีโมโหให้กลายเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. ระงับคำบอกเล่าแล้วก็ความประพฤติในยามที่โกรธเป็นถ้าคิดว่า อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จำไว้เสมอว่า...ความคิดใดๆก็ตามคำบอกเล่าอะไรก็แล้วแต่การกระทำอะไรก็ตามหากมีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจสาแก่ใจชั่วขณะเวลาหนึ่ง แต่ว่าท้ายที่สุดจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กพื้นฐานที่จำต้องทำให้ได้คือ...พวกเราจะไม่บอกหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

คอยให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยว่ากัน

2. ตรึกตรองโท ษของความโก รธแล้วก็ประโยชน์ซึ่งมาจากความกรุณาปรานีคือให้ย้อนคิดถึงชีวิตก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ว่าเราเสียอะไรไปบ้างด้วยเหตุว่าความโก รธทำผู้ใดเศร้าใจกี่คน ทำลายโอกาสได้ไปเท่าไร

ทำลายความเกี่ยวข้องไปยังไงสิ่งพวกนี้ให้น้อมมาคิดบ่อยๆคิดซ้ำให้มากๆ


ไตร่ตรองจนปัญญาสารภาพ หมดข้อแก้ตัวอย ากแก้ไขตัวเองด้วยความเต็มใจ


เพราะเหตุว่ามั่นอกมั่นใจแล้วว่า ความโกรธไม่ใช่ของดีแต่ว่าเป็นสิ่งที่ทำลายความสุขและความเจริญรุ่งเรือง

ทั้งยังของเรา คนที่เรารัก รวมทั้งคนที่รักเราไม่มีผู้ใดได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติมนุษย์เราเกลียดให้คนไหนมาสั่งตราบที่เรายังไม่ต กผลึ กยอมจำนนด้วยตนเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องแปลงตัวเองคนไหนกันจะพูดใครกันแน่จะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่มนุษย์เราจะเปลี่ยนแปลง

เช่นนี้แล้ว พวกเราก็เลยจำเป็นต้องประพฤติตนเป็นครูของตนเพื่ออบรมตนเองให้เห็นพิ ษภั ยของความโก รธเกลียดอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสุขนิดๆหน่อยๆให้คนอื่นๆจนกระทั่งเป็นนิสัยคือให้รู้จักชื่นชม ให้กำลังใจผู้คนเสมอๆ

เมื่อทำให้เขาแฮปปี้แล้วให้เรารู้จักเอาอกเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้จิตใจพวกเราซาบซึ้ง

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่เสมอเราบางทีอาจจะทดลองเทียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์ลักษณะนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดียิ่งกว่ากันถ้าหัวใจเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆเบื่อความโกรธเคืองไม่ชอบชิ งชั งไปทีละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลปรปักษ์ถ้าความโกรธเคืองเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตากรุณา

เราบางทีอาจเฉดหัวไล่ความมืดไม่ได้แม้กระนั้นหากเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดมนจะหายไปและก็ความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สคือใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดแจงกิเล สให้น้อยลง


4. ฝึกฝนดูความรู้สึกด้วยความจริงใจที่เป็นกลางในข้อนี้เป็นธรรมะชั้นลึก เป็นการก้าวหน้าสติ


เป็นเราฝึกฝนมองดูอารมณ์ต่างๆของพวกเราด้วยใจที่เป็นกลางราวกับความคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา

ชอบใจก็ไม่เข้าไป เสียใจก็ไม่เข้าไปคนสรรเสริญก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกฝนให้เห็นว่าอารมณ์ความคิดพวกนี้

ถ้าหัวใจพวกเราเข้าไปยึดท้ายที่สุดก็ไม่ดีทั้งหมดเนื่องจากยึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยราวกับในกำเหรียญไว้ในมือ

ก็จะได้ทั้งหัวทั้งยังก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้ถ้าหากฝึกบ่อยๆนอกเหนือจากความขุ่นเคืองแล้วยังช่วยกำจัดลดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งหมดทั้งปวง

เช่นความหม่นหมองความเดียวดายความเหนื่อยหน่ายต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นมากขึ้น

5. รู้จักอยู่ รู้จักจุดอ่อนจุดแข็ งของตนเองคือให้รู้จักพิจารณาตัวเองถ้าเกิดพวกเราโก รธผู้ใดกันแน่เป็นประจำ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางครั้งบางคราว กับคนบางบุคคลให้สังเกตดูเหอะว่า เราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ กระทั่งแปลงเป็นความคุ้นเคยเพียงเห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

หัวใจก็วูบๆไหวๆความอารมณ์เสียก็เริ่มเข้ามาที่ตรงนี้ควรหลีกเลี่ยงการประจันหน้าทั้งนี้ในเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ

ดังเช่นว่าเป็นคนในครอบครัว เป็นผัวภรรย าเป็นลูก เป็นนายจ้าง ลูกน้อง เพื่อนพ้อง แบบนี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดดวงใจพวกเรา

มาเป็นเครื่องมือในการฝึกจิตใจของเรา ฝึกอภั ยดีมากยิ่งกว่าปล่อยใจของพวกเราให้ต กต่ำไป

ด้วยเหตุว่ามัวแต่ทะเลาะเบาะแว้งกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เรารับรู้ไว้ว่า ส่วนมากแล้ว

ถ้าหากไม่ตรงกันแม้กระนั้นมีความสำคัญจำต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักเกิดขึ้นจากมีบุญก ร ร ม

สัมพันธ์ร่วมกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนอย่างงี้ยิ่งจำเป็นต้องรู้จักระวัง ระงับ สำรวม

อย่าไปทำกรรมให้กันและกันเพิ่มขึ้นการเป็นคนโมโหง่าย ไม่มีอะไรดีมีแต่เสียประโยชน์ เสียทั้งยังสุขภาพทางร่างกายหัวใจ

ทำลายความเกี่ยวเนื่อง ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนเปลี่ยนเป็นคนที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่น

และก็ตัวเองก็หาความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกฝนแรกๆจะทำเป็นย ากแต่ว่าขอให้อดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรจะมีกำลังใจ แล้วก็วินัยฝึกแรกๆอย่าปล่อยใจตามความเคยชินของตัวเองสุดท้ายแล้วเราควรมีความรู้ความเข้าใจว่า

การลดมานะอนัตตาของตนเองลดความขุ่นเคืองชังของตัวเองเราไม่ได้ทำเพื่อคนไหนแต่พวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตัวเอง

เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้กระนั้นถ้าเกิดทำได้วันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นเราจะยินดี และก็รู้สึกขอบคุณมากตนเองรู้สึกกระหยิ่มใจว่า พวกเราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมรวมทั้งสิ่งนี้เป็นการมอบความรักและความกรุณาปรานีให้ตนเองอย่างแท้จริง...

ใจเย็นขึ้น
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/