• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นต้นเหตุ ? รักษาได้ยังไง ?

Started by Prichas, January 04, 2023, 05:15:00 PM

Previous topic - Next topic

Prichas

ตับมีปัญหา จำเป็นต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกที เนื่องจากแม้ปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนกระทั่งเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง และก็มะเร็งตับได้เช่นกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายชื่อดัง กล่าวเน้นย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย ถ้าหากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? และควรดูแลบำรุงอย่างไร..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บผลิตภัณฑ์ (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งยังโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะใช้ประโยชน์เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เหมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเสมือนหัวใจดวงที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการผลิต
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อสุขภาพ ซ่อมบำรุงส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็ง อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ เป็นส่วนประกอบของเลือด เป็นต้นว่า อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารรวมทั้งเกลือแร่เอาไว้ภายในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยสลายไขมัน รวมถึงมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารจำพวกไขมัน และถึงสารเริ่มต้นของฮอร์โมนบางประเภท
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินรวมทั้งเกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยแปรรูป ของกินและก็ยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองสารพิษในเลือด
- ขับของเสียออกจากร่างกายในแบบปัสสาวะ หรือขับถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องพบเจอปัญหาทรุดโทรมสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่เกิดขึ้นจากพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด แต่ว่าหลักๆที่ทำให้คนจำนวนมากเกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีเหตุมาจากพฤติกรรมทำร้ายตับตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบกินอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนมืดค่ำ ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากเกินความจำเป็น
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารเช้า
9.ชอบกินอาหารสุกๆดิบๆ
10.ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมประจำวันซึ่งเราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ ก็เลยปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานมาก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองสังเกตอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา ยกตัวอย่างเช่น มีลักษณะอาการเหนื่อยง่าย อ่อนแรง , มีปัญหาสำหรับในการนอนหลับ , ท้องอืดเป็นประจำ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต ฯลฯถ้าเกิดคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังไม่มีความสนใจกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกทีความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นรุนแรงอย่างตอนเป็นโรคตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลและรักษาตับเบื้องต้น
"ตับ" เป็นอวัยวะสามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางทฤษฎีหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ เพราะฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตัวเองได้ แม้กระนั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเมินเฉยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าถ้าตับอักเสบซ้ำๆจนกระทั่งเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้น ยิ่งโรคมะเร็งยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. สิ่งจำเป็นที่สุดคือ การตั้งใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงเพิ่มมากขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดของกินไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงอาหารหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นแล้วก็รสแทนน้ำตาลแล้วก็ผงชูรส
รับประทานอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดการเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรือขั้นต่ำ 60 นาที/สัปดาห์)
ระหว่างทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกฝนการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับสิ่งเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถที่จะเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ให้ลดน้อยลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลพิษหนาแน่นถ้าปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างเดิม เพิ่มเติมคือถ้าหากมีความรู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราบางทีอาจทำเป็นยาก ลองมามองเคล็ดลับน่ารู้ ที่สามารถจะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ด(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องสำคัญ" อาหารที่เรารับเข้าไปในแต่ละวันก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้แก่ตับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเรากินอะไรลงไป.. และนี่คือ 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วๆไป เปิดตู้เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้แอบแฝงไปด้วยคุณประโยชน์ที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ แล้วก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมถึง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยในการลดไขมันในคนที่มีภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่คุ้นหูใครหลายคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และก็ลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกและกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมทั้งสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งส่งผลให้ตับมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นหนึ่ง โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการวิจัยว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย อีกทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆตลอดวันยังช่วยดีท็อกซ์ชำระล้างพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนถึงโรคร้ายอาจถามหาแบบไม่ทันรู้ตัว เมื่อจำเป็นต้องใช้ชีวิตแล้วก็มีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญซึ่งสามารถปกป้องและลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น โรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับ โรคยอดฮิตที่เอาชีวิตคนไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าเกิดสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับอยากขอคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญ ขอรับคำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และก็ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำปรึกษาคุณในทุกเวลา