7 วิธีต่อกรกับ ความกดดัน แบบคนเฉลี่ยวฉลาด

[Chanapot]

แรงกดดัน โดยมากแล้วอาจจะมิได้มาจากผู้อื่น แต่ว่ามันมักจะเกิดขึ้นเพราะเหตุว่าตัวคุณเอง ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ บทบาทของสังคมต่างๆทำให้คุณต้องกลุ้มใจและก็กลัวว่าจะทำหน้าที่ออกมาได้ไม่ดีไหมเสร็จ

ควรเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นพี่สาวที่รอดูแลน้องๆเป็นภรรย าที่น่ารักน่าเอ็นดู และเป็นหัวหน้าทีมในออฟฟิศ ความต้องการทุกอย่ างทั้งยังเรื่องเวลา เงิน รวมทั้งความรับผิดชอบที่ควรมีมากขึ้นแต่ละวัน อาจจะก่อให้คุณบีบคั้นตัวเองจนกระทั่งไม่รู้เรื่องเ นื้ อ รู้ตัว! แม้กระนั้นพวกเรามีวิธีดีๆมาให้ท่านได้ลองทำกัน เพื่อให้คุณจัดการกับมันรวมทั้งก้าวไปด้านหน้าได้อย่ างมั่นดวงใจ

1.รู้ตัวเองเมื่อรู้สึกกดดัน

ทำงานมากๆแล้วรู้สึกใจไม่ดี หายใจเร็ว วิงเวียน หัวร้อน แล้วก็ระเบิดลง ตู้ม! ผู้คนจำนวนมากมักจะรู้สึกบีบคั้นโดยที่ไม่รู้ตัว แต่ว่าควรทราบไว้ว่าหากคุณเกิดอาการกลุ่มนี้ขึ้นเมื่อไหร่

คุณก็ตกอยู่ในสภาวะบีบคั้นซะแล้วล่ะ แถมหากไม่รีบแก้ไข บางทีอาจจะมีผลเสียกับตัวคุณ เช่น ป่ ว ย บ่อยมากขึ้น ป ว ดเมื่อย ท้องผูก ดำเนินงานได้ไม่เต็มกำลัง รับประทานมากหรือไม่พอ ความรู้สึกทางเพศลดลดลง

2.รู้ที่มาของแรงกดดัน

เมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าตนเองรู้สึกบีบคั้น ต่อมาเป็นจำต้องเจาะจงให้ได้ว่าที่มาของแรงกดดันนี้เป็นยังไง เพราะเมื่อตอนนี้รู้แล้วพวกเราบางทีอาจจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นแง่บวกได้

ตัวการบางครั้งอาจจะเป็นงานของคุณที่พึ่งจะส่งหัวหน้าไปกลับโดนแก้มามากมาย หรืออาจจะมีการเกิดจากตัวคุณเองที่อยากได้เป็นคนที่เพอร์เฟ็ค ไม่ยอมให้แม้กระทั้งเรื่องกล้วยๆๆน้อยๆผิดพลาด

3.หาวิธีที่แก้ปัญหาในสิ่งที่คุณควบคุมได้

คุณต้องแยกให้ออกว่าปัญหาไหน "สามารถปรับแก้ได้" รวมทั้งปัญหาไหน "ไม่สามาถปรับปรุงแก้ไขได้" และให้เริ่มลิสต์ปัญหาที่ตัวคุณสามารถคลี่คลายได้แล้วก็จัดการกับมัน

ด้วยการสร้างตัวเลือกที่ใช้เพื่อการจัดการกับปัญหาแต่ละอย่ าง วางแผน อย่ างรอบคอบและก็ประเมินตนเองว่าคุณพึงพอใจกับมันหรือเปล่า ถ้าหากไม่พอใจ ก็กลับไปที่ตัวเลือกและวางแผนให้ดีอีกครั้ง

4.จัดลำดับความสำคัญของงาน

หลายท่านชอบรู้สึกว่า ยิ่งดำเนินงานให้ได้มากมากแค่ไหนก็ยิ่งดี แม้กระนั้นโน่นก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกบีบคั้นได้ง่ายๆกรรมวิธีการจัดแจงกับตัวคุณเองง่ายๆก็คือจำต้องเรียงลำดับความสำคัญ

ของงานหรือกิจกรรมต่างๆว่าควรจะทำอะไรเสร็จก่อนหลัง รวมทั้งย่อยออกมาเป็นขั้นตอนเล็กๆนอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้เป็นระบบระเบียบปฏิบัติเยอะขึ้นและก็ยังช่วยให้พวกเราไม่ทำงานหนักเกินความจำเป็นอีกด้วยล่ะ

5.ฝึกหัดมอบหมายงานให้ผู้อื่น

ผู้ที่กดดันได้ง่ายมักจะเป็นผู้ที่ชอบความ perfect และก็จะเอางานทุกอย่ างมากองไว้บนหัวตนเอง พย าย ามควบคุมทุกอย่ าง ทดลองมอบงานเล็กๆในตารางงานของคุณให้ผู้ที่พร้อม

โดยบอกเนื้อหาตามที่คุณปรารถนาอย่ างกระจ่างแจ้ง การมอบหมายงานให้ผู้อื่น ทำให้ท่านสามารถดำเนินงานได้อย่ างดี แม้จะอยู่ในสภาพที่มีความเ ค รี ย ด สูง โดยไม่เสียมาตรฐานของตัวเองด้วย

6.ลองพูดว่า "ไม่" ดูบ้ า ง

ชีวิตบางคนขึ้นอยู่กับความเกรงใจคนอื่นมากจนเกินไปจนตัวเองก็เกือบจะไม่ไหวแล้ว ปฏิเสธใครกันแน่ไม่เป็นจนกระทั่งติดเป็นนิสัยทำให้ตัวเองเกิดความกดดันขึ้นโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว พวกเราก็เลยอย ากให้ท่านทดลองไม่ยอมรับคนอื่นดูบ้ า ง คุณอาจจะคิดว่าการพูดคำว่า "ไม่" จะเป็นการตัดจังหวะต่างๆหรืออนาคตออกจากชีวิตคุณ แต่ว่าอันที่จริงแล้ว

การปฎิเสธจะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับในการจัดลำดับจุดสำคัญของช่องทาง เพื่อคุณได้ใช้เวลาแล้วก็ความชำนาญของคุณไปอย่ างมีประสิทธิภาพ กรรมวิธีคือให้ลองถามตนเองว่า


"ฉันอย ากทำมันจริงๆหรือไม่ มันสำคัญกับวัตถุประสงค์ของฉันไหม" ฉันบอกคำว่า "ได้" เพราะรู้สึดผิดหรือเป็นเนื่องจากหน้าที่หรือเปล่า? ทดลองตอบคำถามของตนแล้วก็ทดลองพูดว่า "ไม่" มองบ้ า ง

7.หยุดวิพากษ์วิจารณ์และก็ย้อนยอกตนเอง

การพูดแ ย่ๆกับตัวเอง บางทีอาจนำมาซึ่งความโกรธเคือง และแปลงเป็นความไม่สมหวังในที่สุด หยุดเสียงในหัวนั้นไว้ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงมันให้เปลี่ยนเป็นพ ลั ง บวกดีมากกว่า โดยให้จดว่าแต่ว่าล่ะวัน

คุณวิภาควิจารณ์ตัวเองว่าอะไรบ้ า ง อาทิเช่น ฉันมันเฮงซวยที่ทำประเด็นนี้มิได้ แล้วเพราะเหตุใดคุณถึงคิดอย่างงี้ หลังจากนั้น ลองรู้สึกว่าถ้าเกิดสหายมาขอความเห็นจากคุณในแบบเดียวกัน คุณจะเสนอแนะเขาอย่ างไร คุณจะแก้ในสิ่งที่เขาคิดไหม หรือจะบอกจุดแข็งในตัวเขาให้เขาได้ทราบตัว ลองฝึกหัดแบบนี้กับตัวเองก็จะช่วยได้อย่ างมาก
คนเก่ง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13445/